วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559
อะกีดะฮ์วะฮฺฮาบีเหมือนยิวแล้วยังมีแนวคิดเหมือนยิว จริงหรือ
เขาหาว่า อะกีดะฮ์วะฮฺฮาบีเหมือนยิวแล้วยังมีแนวคิดเหมือนยิวอีก
แกนนำอาชาอีเราะ กล่าวว่า.....
อ่านอัลกุรอ่านอายะฮ์นี้แล้วทำให้นึกถึงกลุ่มนักพูดวะฮฺฮาบี(คณะใหม่)ที่หุก่มชาวพี่น้องอะฮฺลิสซุนนะฮ์สายเก่าซึ่งเป็นชนหมู่มากของโลกอิสลามว่าลงนรกแต่คิดว่ากลุ่มของเขาเท่านั้นแหละที่ขึ้นสวรรค์อยู่กลุ่มเดียว
อัลลอฮฺตะอาลาเจ้าทรงตรัสว่า
وَقَالُوا لَنْ يَدْخُلَ الْجَنَّةَ إِلَّا مَنْ كَانَ هُودًا أَوْ نَصَارَى تِلْكَ أَمَانِيُّهُمْ ..
.
“ พวกเขากล่าวว่า จะไม่ได้เข้าสวรรค์หรอกนอกจากผู้ที่เป็นยะฮูดีเท่านั้นหรือเป็นนะซอรอเท่านั้น ดังกล่าวนั้นคือความฝันลมๆแล้งๆ ของพวกเขา ... ”
ซูเราะฮ์อัลบะกอเราะฮ์ อายะฮ์ที่ 111.
ดังนั้นวะฮฺฮาบีท่านใดที่เชื่อว่าแนวทางของตนเองเท่านั้นที่จะได้เข้าสวรรค์ นั่นคือความฝันลมๆแล้งๆ และตรงนี้ยังถืออีกได้ว่า รับอิทธิพลแนวคิดมากจากศาสนายิวยะฮูดีย์
อะกีดะฮ์วะฮฺฮาบีเหมือนยิวแล้วยังมีแนวคิดเหมือนยิวอีก
นะอูซุบิลลาฮิมินซฺาลิก
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
ชี้แจง
ผมไม่ทราบว่าคนที่ถูกเรียกวะฮบีย์คนใหน อ้างเป็นเจ้าของนรก และไม่มีคนใด บอกว่า คนนั้น คนนี้ ต้องตกนรก เพราะทำความผิด โดยการเจาะจงตัวบุคคล
และไม่มีคนที่ถูกเรียกวะฮบีย์คนใด บอกว่า ตัวเองเป็นเจ้าของสวรรค์ และสัมประทานสวรรค์แต่เพียงผู้เดียว
ในอายะฮข้างต้น พวกยิวก็อ้างว่า พวกตนเท่านั้น ได้เข้าสวรรค์ พวกคริสเตียน ก็อ้างว่าพวกเขาเท่านั้นได้เข้าสวรรค์
แล้วอัลลอฮ ตาอาลาตัดสินว่า
بَلَى مَنْ أَسْلَمَ وَجْهَهُ للهِ وَهُوَ مُحْسِنٌ فَلَهُ أَجْرُهُ عِندَ رَبِّهِ وَلاَ خَوْفٌ عَلَيْهِمْ وَلاَ هُمْ يَحْزَنُونَ
ความว่า : “ หาใช่เช่นนั้นไม่ ผู้ใดที่มอบใบหน้าของเขาให้แก่อัลลอฮฺ และขณะเดียวกันเขาก็เป็นผู้กระทำความดีแล้วไซร้ เขาจะได้รับรางวัลของเขา ณ ที่พระเจ้าของเขา และไม่มีความกลัวใด ๆ แก่พวกเขา และทั้งพวกเขาก็จะไม่เสียใจ -” อัลบะเกาะเราะฮ/112
อิบนุกะษีร (ร.ฮ) อธิบายว่า
وَهُوَ مُحْسِنٌ ) أَيْ : مُتَّبِعٌ فِيهِ الرَّسُولَ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ . فَإِنَّ لِلْعَمَلِ الْمُتَقَبَّلِ شَرْطَيْنِ ، أَحَدُهُمَا : أَنْ يَكُونَ خَالِصًا لِلَّهِ وَحْدَهُ وَالْآخَرُ : أَنْ يَكُونَ صَوَابًا مُوَافِقًا لِلشَّرِيعَةِ . فَمَتَى كَانَ خَالِصًا وَلَمْ يَكُنْ صَوَابًا لَمْ يُتَقَبَّلْ ; وَلِهَذَا قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ : " مَنْ عَمِلَ عَمَلًا لَيْسَ عَلَيْهِ أَمْرُنَا فَهُوَ رَدٌّ " . رَوَاهُ مُسْلِمٌ مِنْ حَدِيثِ عَائِشَةَ ، عَنْهُ ، عَلَيْهِ السَّلَامُ .
(และขณะเดียวกัน เขาก็เป็นผู้กระทำความดี) หมายถึง เขาเป็นผู้ปฏิบัติตามรอซูล ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ในมัน ,เพราะแท้จริง การงาน(อะมั้ลอิบาดะฮ)ที่ถูกตอบรับนั้น มี 2 เงื่อนไข คือ
1. มีความบริสุทธิ์ใจเพื่ออัลลอฮพระองค์เดียว
2. มีความถูกต้อง สอดคล้องตามบทบัญญัติ
ดังนั้น เมื่อมัน มีความบริสุทธิ์ใจ และขณะเดียวกันมันไม่ถูกต้อง มันก็ไม่ถูกตอบรับ และเพราะเหตุนี้ ,ท่านรซูลุลลอฮ ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม กล่าวว่า “ ผู้ใดประกอบการงานใดๆ ที่ไม่มีกิจการ(ศาสนา)ของเราบนมัน มันถูกปฏิเสธ –รายงานโดย มุสลิม จากหะดิษ อาอีฉะฮ จากท่านนบี อะลัยฮิสสลาม
ตัฟสีร อิบนุกะษีร 1/385-386
.............
เพราะฉะนั้น หากคุณ (แกนนำอาชาอีเราะและลูกหาบ) ต้องการจะเข้าสวรรค์ ก็ต้อง ปฏิบัติเงื่อนไขสำคัญ 2 ประการข้างต้นคือ
1. อิคลาศ
2. ตามสุนนะฮ ไม่ทำบิดอะฮ
ถ้าไม่อย่างนั้น ต่อให้อ้างคำว่า "เราคือคนหมู่มากจนตลอดชีวิตก็ไม่มีผลและไม่สำเร็จหรอกครับ ไม่ต้องอ้างคนหมู่มากและใส่ร้ายคนอื่น มันไร้ประโยชน์
والله أعلم بالصواب
เครดิต....
อะสัน หมัดอะดั้ม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น