อิมามมุสลิมได้บันทึกรายงานของท่านอบีฮุรอยเราะฮฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า
ท่าน รอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
" ]ผู้ใดศอละวาตแก่ฉันครั้งหนึ่ง อัลลอฮฺจะศอละวาตให้แก่เขาผู้นั้น 10 ครั้ง "
นักปราชณ์ได้อธิบายการศอละวาตของอัลลอฮฺที่มีต่อผู้ที่เป็นบ่าวนั้นว่ามีหลายอย่างคือ
ก. ได้แก่ความเอ็นดูเมตตา ที่อัลลอฮฺทรงประทานให้แกเขาผู้นั้น
ข . การที่พระองค์ทรงอภัยโทษความผิดของเขา
2 . การศอละวาตแก่ท่าน นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เพียงครั้งเดียวจะทำให้ฐานะ
ของผู้ที่ศอละวาตนั้นสูงขึ้น 10 ขั้น
ทั้งนี้ตามรายงานที่อิมามอะฮฺมัดได้บันทึกไว้ ยังมีผู้อื่นบันทึกไว้อีกเช่นกัน อาทิ
เช่นท่านอิมามบุคอรีย์ ในหนังสือ อัลอะดะบิลมุมุฟรอด และท่านนะซาอีย์
ในสุนันของท่าน
3 . การศอละวาตแก่ท่าน นบี จะเพิ่มความดีให้เรื่อยๆ
ในเรื่องนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดในข้อที่สอง ตามรายงานของท่าน อนัสดังกล่าวข้างต้นแล้ว
แต่ท่านอิมามอะฮฺมัดยังนำเอารายงานของท่านอบูฎ็อลฮะฮ์ อัลอันซอรีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ
มาระบุไว้ ซึ่งท่านกล่าวว่า
" วันหนึ่งท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ตื่นแต่เช้าด้วยความสะบายใจ เห็นได้ชัดจาก
ใบหน้าของท่าน บรรดาศอหะบะฮฺจึงกล่าวแก่ท่าน นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า
โอ้ท่านร่อซูล วันนี้ท่านตื่นแต่เช้าด้วยความสดชื่นสะบายใจ ซึ่งมองเห็นได้ชัดจากใบหน้าของท่าน
ท่านร่อซูลกล่าวแก่บรรดาศอหะบะฮฺว่า ใช่แล้ว มีผู้หนึ่งมาหาฉัน เขามาจากพระเจ้า
ของฉันและได้กล่าวแก่ฉันว่า ผู้ใดจากอุมมะฮฺของท่านศอละวาตแก่ท่านเพียงครั้งเดียว
อัลลอฮฺจะทรงจารึกแก่เขาผู้นั้น 10 ความดี และจะมอบ(การศอละวาต) แก่ผู้นั้น 10 ครั้ง
4 . การศอละวาตแก่ท่าน นบี เป็นสาเหตุให้ดุอาอฺของเขาถูกรับ
ทั้งนี้มีรายงานจากฎ็อบรอนีย์ และอัลฮัยซะมีย์ ได้บันทึกไว้จากท่านอาลี ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุกล่าวว่า
" ทุกๆดุอาอฺนั้นจะถูกกีดกั้น จนกว่าจะมีการศอละวาตแก่ มุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
และวงศ์วานของท่าน "
5 . การศอละวาตแก่ท่าน นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุให้ได้รับชะฟาอะฮฺ
ทั้งนี้ตามรายงานจากอบีดัรดาอฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ซึ่งบันทึกโดยอัฎฎ็อบรอนีย์ในหนังสือ " อัลมั๊วอฺญัม
อัลกะบี๊รฺ " ว่าท่าน นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
" ผู้ใดศอละวาตแก่ฉันตอนเช้า 10 ครั้ง และตอนเย็น 10 ครั้ง เขาจะได้รับชะฟาฮฺของฉันในวันกิยามะฮฺ "
6 . ผู้ที่ศอละวาตแก่ท่านร่อซูลจะเป็นผู้ใกล้ชิดกับท่านในวันกิยามะฮฺ
มีรายงานจากท่านอับดุลลอฮฺ อิบนิมัสอูด ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ซึ่งบันทึกโดยอิมามติรฺมิซีย์และอิบนีฮิบบาน
แจ้งว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
" ผู้ที่เป็นผู้ใกล้ชิดกับฉันในกิยามะฮฺนั้น คือผู้ที่ศอละวาตแก่ฉันมากๆ "
7 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล เท่ากับเป็นการบริจาคทานของผู้ไม่มีทรัพย์
ดังรายงานจากท่านอบี สะอี๊ด อัลคุดรีย์ ซึ่งบันทึกโดยอิมามบุคอรีย์ในหนังสือของท่านชื่อ "อัลอะดะบิลมุฟร๊อด "
อิบนิฮิบบานใน " ศอฮี้ฮฺ " ของท่าน และท่านอบูยะอฺลา กล่าวว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
กล่าวว่า " มุสลิมคนใดที่ไม่มีอะไรสักอย่างจะทำศอดะเกาะฮฺ เขาก็จงกล่าวศอละวาตแก่ฉัน "
การกล่าวคำวิงวอนดังกล่าวนี้ก็ถือเป็น การทำทาน(ศอดะเกาะฮฺ) สำหรับเขา
8 . มะลาอิกะฮฺจะศอละวาตให้แก่ผู้ที่กล่าวศอละวาตแก่ ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
มีรายงานจากท่านอับดุรเราะฮฺมาน อิบนิ เอ๊าฟฺ ซึ่งบันทึกโดยท่านอิมาม อะฮฺมัดและฮากิมว่า
" ฉันได้มาหาท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในขณะที่ท่านกำลังสุญูด ท่านสุญูดนานมาก
เมื่อท่านเงยศีรษะขึ้น ท่านกล่าวแก่ฉันว่า ญิบรีลได้มาหาฉัน และกล่าวแก่ฉันว่า ผู้ใดศอละวาตแก่ท่าน
ฉันก็จะศอละวาตให้เขา และผู้ใดสลามแก่ท่าน ฉันก็จะกล่าวสลามแก่เขา ดังนั้น ฉัน(หมายถึงท่าน นบี)
จึงสุญูดนาน เพื่อเป็นการขอบคุณอัลลอฮฺ
9 . การกล่าวศอละวาตแก่ท่านร่อซูล เป็นหนทางที่จะนำไปสู่สวรรค์
มีรายงานที่อิมาม ฏ๊อบรอนีย์ ได้บันทึกไว้ในหนังสืออัลกะบี๊รของท่าน จากรายงานของท่านฮุซัยนฺ บุตร
ท่านอาลี ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
" ผู้ใดลืมศอละวาตแก่ฉัน เขาผู้นั้นก็ไปสวรรค์ไม่ถูก "
10 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล เป็นสาเหตุทำให้รอดพ้นจากความหายนะในวันกิยามะฮฺ
ทั้งนี้ตามรายงานที่ท่านอิมามอะฮฺมัดและติรมิซีย์บันทึกไว้ จากท่านอบี ฮุรอยเราะฮฺ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ
แจ้งว่า ท่าน นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
" ไม่มีหมู่คณะใดๆ ที่นั่งประชุม โดยที่เขาไม่รำลึกถึงอัลลอฮฺ และไม่ได้ศอละวาตแก่ นบีของพระองค์
นอกจากการประชุมของพวกเขานั้น จะเป็นความผิดสำหรับพวกเขา ในวันกิยามะฮฺ อัลลอฮฺจะทรงลงโทษ
พวกเขา หรือจะทรงอภัยให้พวกเขาก็ได้ "
และรายงานอีกกระแสหนึ่งซึ่งบันทึกโดยอิมาม อะฮฺมัด อิบนิฮิบบาน และฮากิมระบุว่า
" นอกจากการประชุมของพวกเขานั้นจะเป็นความสลดใจในวันกิยามะฮฺ
" " ผลตอบแทนที่ผู้กล่าวศอละวาตแก่ท่านร่อซูลจะได้รับ " "
ท่าน อิมาม อิบนิ กอยยิมได้รวบรวมไว้ถึง 40 ประการ ซึ่งระบุไว้ในหนังสือของท่านชื่อ
" ญะลาอุล อัฟฮาม ฟิศศอลาติ วัสสะลามิ อะลา ศ็อยริล อะมาม " ซึ่งระบุได้ดังต่อไปนี้
1 . เป็นการเชื่อฟังปฎิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺ ในฐานะที่พระองค์ทรงกำชับให้ศอละวาต
แก่ท่าน นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
2 . การให้ศอละวาตแก่ท่านร่อซูล เป็นการปฎิบัติตามเยี่ยงอย่างที่พระองค์ทรงปฎิบัติต่อท่าน
กล่าวคือ เมื่ออัลลอฮฺทรงศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ก็สมควรอย่างยิ่งสำหรับผู้ศรัทธาต้องศอละวาต
ให้แก่ท่านเช่นเดียวกัน แม้ว่าศอละวาตของเรากับศอละวาตของอัลลอฮฺนั้น จะมีความแตกต่างกัน
ก็ตาม เพราะ ศอละวาตของเรากับศอละวาตของอัลลอฮฺนั้น จะมีความแตกต่างกันก็ตาม
เพราะศอละวาตของอัลลอฮฺต่อนบีของพระองค์เป็น การสรรเสริญและเป็นการให้เกียรติ
แต่ศอละวาตของผู้ศรัทธาต่อท่าน นบีนั้นเป็นการดุอาอฺวิงวอนต่ออัลลอฮฺเพื่อให้พระองค์ทรงตอบแทน
ให้แก่ท่าน นบี และในขณะเดียวกันก็เป็นการปฎิบัติตามแนวทางของท่าน นบีอีกด้วย
3 . การศอละวาตให้แก่ท่าน ร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นการปฎิบัติเยี่ยงอย่างที่มะลาอิกะฮฺ
ปฎิบัติต่อท่าน
4 . อัลลอฮฺทรงศอละวาต 10 ครั้ง ให้แก่ผู้ศอละวาตแด่ท่านร่อซูลเพียงครั้งเดียว
5 . อัลลอฮฺทรงยกฐานะผู้ที่ศอละวาตแก่ท่านร่อซูล 10 ขั้นความดี
6 . อัลลอฮฺทรงจารึกให้ผู้ศอละวาตแก่ท่านร่อซูล 10 ความดี
7 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล จะได้รับการลบล้างความผิด 10 อย่าง
8 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล เป็นสาเหตุจะทำให้ดุอาอฺของเขาถูกรับ
9 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล เป็นสาเหตุให้ได้รับการ ชะฟาอะฮฺ
10 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล เป็นสาเหตุให้ได้รับอภัยโทษ
11 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล เป็นสาเหตุให้อัลลอฮฺทรงคุ้มครองบ่าว ในสิ่งที่จะสร้างความกังวลใจให้แก่เขา
12 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุให้บ่าวของอัลลอฮฺได้ใกล้ชิดกับ
ท่าน นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในวันกิยามะฮฺ
13 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะมีฐานะเท่าเทียมกับการบริจาคทาน
14 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นหนทางที่จะนำพาไปสู่ความสำเร็จ
ในกิจการงานต่างๆ
14 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุให้อัลลอฮฺ และมะลาอิกฮฺ
ศอละวาตให้แก่เขา
16 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นการชำระซักฟอกให้สะอาด บริสุทธิ์
17 . การศอละวาตแก่ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุให้เขาได้รับข่าวดีว่าจะเป็น
ชาวสวรรค์ก่อนที่เขาจะตาย ดังที่ท่านฮาฟิซ อบูมูซา อัลมะดีนีย์ นักวิชาหะดีษได้บันทึกหะดีษหนึ่ง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ในหนังสือ "อัตฺตัรฆี๊บฺ วัตตัรฮี๊บฺ"
18. การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะทำให้พ้นความหายนะในวันกิยามะฮฺ
และท่านอบูมูซา ได้บันทึกหะดีษหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้
19 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุทำให้ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิ
วะซัลลัม ตอบศอละวาตนั้นและตอบสลามแก่ผู้ที่สลามอีกด้วย
20 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุทำให้เขานึกออกได้ในสิ่งที่เขาลืม
21 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุทำให้ความยากจนหมดไป
22 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุทำให้การร่วมประชุมนั้นๆ
เป็นการร่วมประชุมที่ดี และจะไม่กลับกลายเป็นความเศร้าสลดใจแก่ผู้เข้าร่วมประชุม ในวันกิยามะฮฺ
23 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุแห่งการขจัดความตระหนี่ถี่เหนียว
24 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะเป็นเหตุให้เขารอดพ้นจากดุอาอฺที่ท่าน
ร่อซูลวิงวอนขอให้ผู้ที่ไม่ศอละวาตแก่ท่าน ได้รับความต่ำต้อย
25 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะนำพาไปสู่สวรรค์
26 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม จะทำให้รอดพ้นจากสิ่งไม่ดี
อันอาจจะเกิดในที่ประชุม
27 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุทำให้คำพูดสมบูรณ์
28 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุทำให้รัศมีสาดส่องไป
ทั่วสะพานสิร็อฎ ขณะที่เขาเดินผ่านไป
29 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุทำให้รอดพ้นจากการ
ออกห่างจากท่านรอซูล
30 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุทำให้ได้รับการสรรเสริญ
จากมะลาอิกะฮฺที่อยู่ในฟากฟ้าและแผ่นดิน
31 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุทำให้มีความจำเริญในอายุ
การงาน ตลอดจนสิ่งเอื้ออำนวยประโยชน์สุขแก่เขา
32 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุทำให้ได้รับความเอ็นดูเมตตา
จากอัลลอฮฺ
33 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นการชี้ให้เห็นว่ารักท่านร่อซูล
34 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุที่ทำให้อัลลอฮฺทรงรักท่าน
35 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุทำให้เขาได้อยู่ในหนทางที่เที่ยงตรง
36 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุทำให้ชื่อถูกเสนอให้แก่ท่านร่อซูล
37 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุทำให้เท้ามั่นคง
ขณะเดินข้ามสะพานสิร็อฎ
38 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ถือเป็นการแสดงการขอบคุณแก่ท่านร่อซูล
ตามสิทธิที่ท่านควรจะได้รับ
39 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นการรวมไว้ซึ่งการรำลึกถึงอัลลอฮฺ
กตัญญูต่อสิ่งที่พระองค์ทรงประทานให้
40 . การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม เป็นสาเหตุทำให้ได้รับการยกฐานะ ณ อัลลอฮฺ
ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ในขณะเดียวกันก็เป็นการชี้ให้เห็นว่า ผู้กระทำเช่นนั้นทราบถึงฐานะอันยิ่งใหญ่
ของท่านร่อซูลอีกด้วย
" " วิธีศอละวาตแก่ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ตามบัญญัติศาสนา " "
ในเรื่องนี้มีหะดีษมากมายที่ระบุไว้ อาทิเช่น
1 . ท่านอิมามบุคอรีย์ได้บันทึกไว้ในศ่อฮี้ฮฺของท่าน ท่านอบูดาวู๊ดบันทึกไว้ในสุนันของท่าน
ได้บันทึกรายงานจากอบี ฮุมัยดฺ อัสซาอีดีย์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า
" " บรรดาศ่อฮาบะฮฺได้กล่าวแก่ท่านร่อซูลว่า โอ้ ท่านร่อซูล เราจะศอละวาตต่อท่านได้อย่างไร?
ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า ท่านทั้งหลายจงกล่าวว่า
"ข้าแด่อัลลอฮฺ โปรดประทานพรแด่มุฮัมมัด บรรดาภริยาและบรรดาลูกหลานของมุฮัมมัด เช่นเดียวกับที่
พระองค์ได้ทรงประทานพรแด่วงศ์วานของอิบรอฮีม และโปรดประทานความจำเริญแด่มุฮัมมัด
บรรดาภรรยาของมุฮัมมัด และบรรดาลูกหลานของมุฮัมมัด เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงประทานความ
ความจำเริญแด่วงศ์วานของอิบรอฮีม แท้จริงพระองค์นั้นคือผู้ทรงได้รับการสรรเสริญและผู้ทรงได้รับเกียรติ"
และรายงานข้างต้นนี้ ท่านอิมามมุสลิมและอิมามอิบนิมาญะฮฺได้บรรทึกไว้เช่นเดียวกัน
2 . อิมามบุคอรีย์บันทึกไว้ในศ่อฮี้ฮฺ อิมามนะซาอีย์บันทึกไว้ในสุนัน อิมามอิบนิมาญะฮฺบันทึกไว้ในสุนัน
ตามรายงานของท่านอบีสะอี๊ด อัลคุดรีย์ รอฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า "เรา(หมายถึงบรรดาศ่อฮาบะฮฺ)ได้กล่าวแก่
ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า การให้สลามแก่ท่านร่อซูลนั้นเรารู้แล้ว ดังนั้นจึงอยากทราบว่า
การให้ศอละวาตแก่ท่านนั้นจะกล่าวอย่างไร? ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
ท่านทั้งหลายจงกล่าวว่า
" ข้าแด่อัลลอฮฺ โปรดประทานพรแก่มุฮัมมัดผู้เป็นบ่าวและร่อซูลของพระองค์ เช่นเดียวกับที่พระองค์
ได้ทรงประทานพรแก่อิบรอฮีม และโปรดประทานความจำเริญแก่มุฮัมมัดและวงศ์วานของมุฮัมมัด
เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงประทานความจำเริญแด่วงศ์วานของอิบรอฮีม "
3 . ท่านอิมามอะฮฺมัดบันทึกไว้ในสุนันของท่าน ตามรายงานของท่านมูซา บินฎอลฮะฮฺ จากบิดาของเขา
ว่า ฉันกล่าวแก่ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่าจะศอละวาตแก่ท่านอย่างไร?
ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ตอบว่า จงกล่าวว่า
" ข้าแด่อัลลอฮฺ โปรดประทานพรแด่มุฮัมมัด และแด่วงศ์วานของมุฮัมมัด เช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงประทานพร
แด่วงศ์วานของอิบรอฮีม แท้จริงพระองค์นั้นคือผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ และผู้ทรงได้รับเกียรติ และโปรด
ประทานความจำเริญแด่มุฮัมมัดและแด่วงศ์วานของมุฮัมมัด เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงประทาน
ความจำเริญแด่วงศ์วานของอิบรอฮีม แท้จริงพระองค์นั้นคือ ผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ และผู้ทรงได้รับเกียรติ "
และยังมีรายงานหนึ่งระบุว่า
" ข้าแด่อัลลอฮฺ โปรดประทานพรแก่มุฮัมมัดและวงศ์วานของมุฮัมมัด เช่นเดียวกันกับที่พระองค์ได้ทรงประทาน
พรแก่อิบรอฮีม แท้จริงพระองค์นั้นคือผู้ทรงได้รับการสรรเสริญ และผู้ทรงได้รับเกียรติ และโปรดประทานความ
จำเริญแก่มุฮัมมัดและวงศ์วานของมุฮัมมัด เช่นเดียวกับที่พระองค์ได้ทรงประทานความจำเริญแก่อิบรอฮีม
แท้จริงพระองค์นั้นคือผู้ทรงได้รับการสรรเสริญและผู้ทรงได้รับเกียรติ "
ตามรายงานดังกล่าวนี้ข้างต้น ทำให้นักปราชญ์มีความเห็นว่า การศอละวาตแก่ท่านร่อซูล
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม นั้นมีหลายแบบ หลายสำนวน แม้แต่เราจะใช้สำนวนที่มีคำกล่าว
อย่างน้อยก็ได้ เช่น
ก . " ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม " ใช้กล่าวเมื่อได้ยินชื่อท่านร่อซูล หรือ นบี หรือมุฮัมมัด
ข . เมื่อศอละวาตแด่ท่านให้ใช้คำว่า " อัลลอฮุมมะ ศ็อลลิ อะลา มุฮัมมัด หรือ อัลลอฮุมมะ ศ็อลลิ
อะลา มุฮัมมัด อันนะบียัล อุมมีย์
ค . สำหรับศอละวาตที่สมบูรณ์ที่สุดคือ " อัศศอละวาต อิบรอฮีมียะฮฺ " ที่พวกเราใช้กล่าวในละหมาด
ขณะอ่านตะชะฮฺฮุด สุดท้าย ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว
" " ผลดีของการระบุชื่อของท่าน นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ในจดหมาย ในหนังสือ ข้อเขียน
และตำรับตำราต่างๆ " "
1 . ท่านอิมามบัยฮะกีย์ และอิมามอัดดารกุฎนีย์ ได้บันทึกรายงานของท่านอบูบักร อัศศิดดี๊ก ร่อฎิยัลลอ
ฮุอันฮุ ไว้ว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
" " ผู้ใดบันทึกวิชาใดจากฉัน(หมายถึงเขียนส่วนหนึ่งส่วนใดจากคำสอนของท่าน นบี) แล้วผู้เขียนได้เขียน
ศอละวาตแด่ฉันในข้อเขียนนั้น เขาผู้นั้นจะยังคงได้รับผลตอบแทน ตราบเท่าที่มีผู้อ่านข้อเขียนดังกล่าว " "
2 . ท่านอิมาม ฎ็อบรอนีย์และคนอื่นๆได้บันทึกรายงานจากท่าน อบีฮุรอยเราะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ
โดยท่านกล่าวว่า ท่านรอซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
" " ผู้ใดศอละวาตแก่ฉัน โดยศอละวาตนั้นถูกจารึกในหนังสือ หรือตำราเล่มหนึ่งเล่มใด บรรดามะลาอิกะฮฺจะ
ศอละวาตแก่เขาผู้นั้น ตราบใดที่ชื่อของฉันยังคงอยู่ในหนังสือหรือตำรับตำราเล่มนั้น " "
" " ชอบให้ศอละวาตแก่ท่าน นบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม มากๆในค่ำวันศุกร์และในวันศุกร์ " "
1 .บรรดาอิมาม อันได้แก่อะฮฺมัด อบูดาวู๊ด อันนะซาอีย์ อิบนีมาญะฮฺ อิบนีฮิบบานและอัลฮากีม
ได้บันทึกไว้จากรายงานของท่านเอาวฺซ์ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ ว่า ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม
กล่าวว่า " " แน่แท้ วันที่ดีที่สุดในบรรดาวันทั้งหลายของพวกท่านนั้นคือ วันศุกร์ ในวันนั้น อาดัม
ถูกสร้าง(หมายถึงอัลลอฮฺทรงสร้างอาดัม) และในวันนั้นอาดัมถูกเอาชีวิต(หมายถึงวะฟาต)
และในวันนั้นจะมีการเป่าสังข์ และในวันนั้นมนุษย์ทั้งหลายจะสลบไสลไม่ได้สติ(หลังจากเป่าสังข์แล้ว)
ดังนั้น พวกท่านจงศอละวาตให้แก่ฉันมากๆ แท้จริงการศอละวาตของพวกท่านที่มีต่อฉันนั้น
จะถูกนำมาเสนอแก่ฉัน บรรดาศ่อฮาบะฮฺกล่าวว่า โอ้ท่านร่อซูล ศอละวาตของพวกเราจะถูกเสนอ
แก่ท่านได้อย่างไร ในเมื่อศพของท่านได้ผุเปื่อยไปแล้ว? ท่านร่อซูลจึงกล่าวตอบแก่บรรดาศอหาบะฮฺว่า
แท้จริงอัลลอฮฺทรงห้ามแผ่นดินไม่ให้กินศพของบรรดาผู้เป็น นบี " "
2 . อิมาม บัยฮะกีย์ได้บันทึกรายงานของท่าน อบี อุมามะฮฺ ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุ กล่าวว่า
ท่านร่อซูล ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า
" " ท่านทั้งหลายจงศอละวาตให้แก่ฉันมากๆในทุกๆวันศุกร์ แท้จริงศอละวาตของประชาชาติของฉัน
(หมายถึงการให้ศอละวาตแด่ท่านร่อซูล) จะถูกเสนอแก่ฉันในทุกวันศุกร์ ผู้ใดที่ศอละวาตแก่ฉันมากที่สุด
เขาก็จะมีฐานะเป็นผู้ไกล้ชิดที่สุดกับฉัน " "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น