วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

แนวคิดนบีไม่ทำก็ทำได้ อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม



แนวคิดนบีไม่ทำก็ทำได้ อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
อุตริกรรมในด้านศาสนพิธี หรือการอิบาดะฮในศาสนา ได้เกิดขึ้นมากมาย จนทำให้สุนนะฮถูกกลืนหายไปในสังคม สังคมจึงเอาบิดอะฮนำหน้า เอาสุนนะฮไว้หลัง การทำบิดอะฮกลายเป้นเครื่องการันตีอีหม่านของคน ในขณะที่คนตามสุนนะฮกลายเป็นคนแปลกแยกและเป็นคนเลวในสังคม ,วิกฤติเหล่านี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากแนวคิดว่านบีไม่ทำก็ทำได้ ในขณะที่คนส่วนหนึ่งยืนยันว่า นบีไม่ทำนั้นคือห้ามทำ
อัลลอฮ ตาอาลา ทรงประทานอิสลามมาแก่มนุษย์ โดยส่งรอซูล มาเป็นแบบอย่าง
พระองค์ได้ตรัสไว้ว่า
لَقَدْ كَانَ لَكُمْ فِي رَسُولِ اللَّهِ أُسْوَةٌ حَسَنَةٌ لِّمَن كَانَ يَرْجُو اللَّهَ وَالْيَوْمَ الْآخِرَ وَذَكَرَ اللَّهَ كَثِيرًا (الأحزاب/21)
“โดยแน่นอน ในเราะสูลของอัลลอฮ์มีแบบฉบับอันดีงามสำหรับพวกเจ้าแล้ว สำหรับผู้ที่หวัง (จะพบ) อัลลอฮ์และวันปรโลกและรำลึกถึงอัลลอฮ์อย่างมาก-อัลอะฮซาบ/21
อิบนุกะษีร (ร.ฮ)กล่าวว่า
هَذِهِ الْآيَةُ الْكَرِيمَةُ أَصْلٌ كَبِيرٌ فِي التَّأَسِّي بِرَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ فِي أَقْوَالِهِ وَأَفْعَالِهِ وَأَحْوَالِهِ ..
อายะฮอันทรงเกียรตินี้ คือ หลักรากฐานอันยิ่งใหญ่ ในการดำเนินตามแบบอย่าง รซูลุลลอฮ ศอ็ลฯ ในบรรดาการพูด ,การกระทำและ สภาพเป็นอยู่ของท่านรอซุล . -ตัฟสีรอิบนุกะษีร . 6/392
อบูอัลมุซฟัรอัสสัมอานีย์กล่าวว่า

إذا ترك النبي صلى الله عليه وسلم شيئا من الأشياء وجب علينا متابعته فيه
เมื่อนบี ศอ็ลลัลลอฮุอะลัยฮิวะสัลลัม ได้ทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จากบรรดาสิ่งต่างๆ ก็จำเป็นแก่เรา จะต้องเจริญรอยตามท่านนบีในสิ่งนั้น – เกาะวาเฏียะอัลอะดิลละฮ เล่ม 1 หน้า 311
...........
คือสิ่งใดท่านนบีไม่ปฏิบัติ เราก็ไม่ปฏิบัติ แบบนี้เขาเรียกปฏิบัติตามสุนนะฮตัรกียะฮ
ความหมายคำว่า "التَّأَسِّي(การดำเนินตามแบบอย่าง)
( فَائِدَةٌ : التَّأَسِّي ) بِرَسُولِ اللَّهِ صَلَّى اللَّهُ عَلَيْهِ وَسَلَّمَ ( فِعْلُك ) أَيْ أَنْ تَفْعَلَ ( كَمَا فَعَلَ لِأَجْلِ أَنَّهُ فَعَلَ ) وَأَمَّا التَّأَسِّي فِي التَّرْكِ : فَهُوَ أَنْ تَتْرُكَ مَا تَرَكَهُ ، لِأَجْلِ أَنَّهُ تَرَكَهُ
อัตตะอัสสีย์ (การดำเนินตามแบบอย่าง)รอซูล ศอ็ลฯ (คือ การปฏิบัติของท่าน) หมายถึง ท่านปฏิบัติ (ดังเช่นที่ท่านรอซูลปฏิบัติ เพราะว่าแท้จริงท่านรอซูลได้ปฏิบัติ) และสำหรับการดำเนินตามแบบย่างในการละทิ้ง(การไม่ปฏิบัติ)คือ การที่ท่านไม่ปฏิบติ สิ่งที่ท่านรอซูลไม่ปฏิบัติมัน เพราะว่าแท้จริงท่านรอซูลไม่ปฏิบัติมัน -ดูชัรหเกากะบิลมุนีร ของตะกียุดดีน อะบิลบะกออฺ อัลฟะตูฮีย หน้า 220
.....
สรุปคือ การดำเนินตามแบบอย่างรอซูลนั้น คือ ท่านปฏิบัติ เพราะท่านรอซูล ปฏิบัติ และท่านละทิ้ง(หมายถึงท่านไม่ปฏิบัติ )เพราะว่า ท่านรอซูลละทิ้ง (ไม่ปฏิบัติ)
แปลก...... ณ วันนี้ กลับมีโต๊ะครููบางส่วนบอกว่า "ถึงแม้ท่านรอซูลไม่ปฏิบัติ ก็ปฏิบัติได้ไม่ห้าม - นะฮูซุบิลละฮ
ท่านครับ ท่านไม่รู้หรอกหรือว่า อิสลาม คือ ศาสนา แห่งวะหยู คำสอนศาสนาต้องมาจากวะหยูของเจ้าของศาสนา คืออัลลอฮ
แล้วสิ่งที่ท่านรอซูล ศอ็ลฯไม่สอน มันจะเป็นศาสนาได้อย่างไร
อัลกุรอาน ได้รับรองว่าสิ่งที่ท่านเราะสูล พูดนั้นเป็นวะหยูมาจากอัลลอฮ์ ไม่ใช่มาจากอารมณ์ของท่านเอง พระองค์ได้ตรัสไว้ว่า
وَمَا يَنطِقُ عَنِ الْهَوَى إِنْ هُوَ إِلَّا وَحْيٌ يُوحَى (النجم/3-4)
“และเขามิได้พูดตามอารมณ์ อัล-กุรอานมิใช่อื่นใดนอกจากเป็นวะฮีย์ที่ถูกประทานลงมา”
จึงขอถามผู้รู้หรือท่านครุ ที่รับรองในสิ่งที่รอซูล ศอ็ลฯ ไม่ปฏิบัติ ไม่สอนว่า ท่านได้รับวะหยูจากใครหรือ?
อัลลอฮ ตาอาลาตรัสว่า

وَمَنْ يَبْتَغِ غَيْرَ الإِسْلامِ دِيْنَاً فَلَنْ يُقْبَلَ مِنْهُ وَهُوَ فِي الآخِرَةِ مِنَ الْخَاسِرِيْنَ

ความว่า “และผู้ใดแสวงหาอื่นจากอิสลามไว้เป็นศาสนาแล้ว มันจะไม่ถูกตอบรับจากพระองค์ และในวันปรโลกเขาจะอยู่ในหมู่ผู้ขาดทุน” (ซูเราะฮฺอาลอิมรอน : 85)
จึงฝากให้พีน้องทั้งหลายนำไปคิดและใคร่ครวญว่า ถ้าท่านไปหลงเชื่อ แล้วปฏิบัติอิบาดะฮในสิ่งทีไม่มีคำสอนศาสนา ระวังว่า ในวันอาคีเราะฮพวกท่านจะขาดทุน เพราะไม่รู้จะเอาผลตอบแทนจากใคร - นะอูซุบิลละฮ

เครดิต.....
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น