วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

เจาะจงอิบาดะฮแบบใดที่เข้าข่ายเป็นบิดอะฮ


เจาะจงอิบาดะฮแบบใดที่เข้าข่ายเป็นบิดอะฮ

เห็นช่วงนี้มีการพูดกันว่า พวกวะฮบีย์ กล่าวหาว่า เยี่ยมกุโบร์วันอีด เป็นบิดอะฮ แล้วมีการใส่ไข่ว่า สิ่งสวยงามกลับห้ามทำ อะไรเป็นต้น

ขอเรียนว่า คำว่าเจาะจงอิบาดะฮ ในเวลาและสถานที่ ที่เฉพาะ ที่ถือว่า เป็นบิดอะฮคือ การเชื่อว่า เวลานั้น หรือสถานที่นั้น ประเสริฐหรือดีกว่า เวลาหรือสถานที่อื่น โดยไม่ได้มีหลักฐานทางศาสนาระบุไว้

อบูชามะฮ(ร.ฮ) กล่าวว่า

"ولا ينبغي تخصيص العبادات بأوقات لم يخصصها بها الشرع ، بل يكون جميع أفعال البر مرسلة في جميع الأزمان ليس لبعضها على بعض فضل ، إلا ما فضله الشرع وخصه بنوع من العبادة ، فإن كان ذلك ، اختص بتلك الفضيلة تلك العبادة دون غيرها

ไม่สมควรเจาะจงอิบาดะฮ ด้วยบรรดาเวลา ซึ่ง ศาสนบัญญัติไม่ได้เฉพาะเจาะจงด้วยมัน แต่ทว่า บรรดาการกระทำความดีทั้งหมด ถูกปล่อยให้อยู่ในบรรดาเวลา โดยที่ส่วนหนึ่งไม่ได้มีความประเสริฐเหนืออีกส่วนหนึ่ง เว้นแต่ สิ่งที่ ศาสนบัญญัติได้ระบุความประเสริฐมันและได้เฉพาะเจาะจงมัน ด้วยชนิดอิบาดะฮ เพราะถ้าหากได้ปรากฏดังกล่าวนั้น อิบาดะฮดังกล่าวนั้นก็ได้ถูกเจาะจง ด้วยความประเสริฐดังกล่าว โดยไม่ได้เจาะจงอิบาดะฮอื่นจากมัน- อัลบาอิษ ลิอิงการิลบิดอิ วัลหะวาดิษ หน้า 48
..........
คือ หมายถึงเจาะจงเวลา โดยเชื่อว่า ดีกว่าเวลาอื่นโดยที่ไม่มีหลักฐานทางศาสนาเจาะจงไว้

ดังเช่น ฟัตวาชัยคฺอิบนุอุษัยมีน(ร.ฮ)ดังนี้

س : ما حكم تخصيص العيدين والجمعة لزيارة المقابر ؟ وهل الزيارة للأحياء أم للأموات فيهما ؟
ถาม : การเจาะจงวันอีดทั้งสองและวันศุกร์ เพื่อเยี่ยมกุบูรนั้น มีหุกุมว่าอย่างไร? และ การเยี่ยมในมันทั้งสอง(หมายถึงในวันอีดและศุกร์) เพื่อคนเป็นหรือคนตายหรือ?

ج : ليس له أصل، فتخصيص زيارة المقابر في يوم العيد، واعتقاد أن ذلك مشروع يعتبر من البدع لأن ذلك لم يرد عن النبي صلى الله عليه وسلم ولا أعلم أحداً من أهل العلم قال به، أما يوم الجمعة فقد ذكر بعض العلماء أنه ينبغي أن تكون الزيارة في يوم الجمعة ومع ذلك فلم يذكروا في هذا أثراً عن الرسول صلى الله عليه وسلم

ตอบ : มันไม่มีที่มา ดังนั้นการเจาะจงเยี่ยมกุบูรในวันอีด และเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวนั้น เป็นสิ่งที่ถูกบัญญัติ ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของบิดอะฮ เพราะดังกล่าวนั้น ไม่ปรากฏรายงานจากนบี ศอลฯ และข้าพเจ้า ไม่รู้ว่านักวิชาการคนใด กล่าวด้วยมัน และสำหรับวันศุกร์ นั้น นักวิชาการบางส่วนระบุว่า สมควรจะเยี่ยมในวันศุกร์ ทั้งที่พร้อมกับดังกล่าวนั้น เขาไม่ได้ระบุหะดิษในเรื่องนี้จากท่านรซูล ศอลฯ – อะหกามอัลญะนาอิซ ของเช็ค อุษัยมีน หน้า 43
............
คือ ทำโดยความเชื่อว่าศาสนาส่งเสริมให้ปฏิบัติในวันนั้น

การเจาะจงในสิ่งที่ศาสนากล่าวไว้กว้างๆนั้น ตามหลักนิติศาสตร์อิสลามหรือเกาวะอีดอุศูลุลฟิกฮ ก็มีการกล่าวเอาไว้ เช่น
อัลหาฟิซอิบนุหะญัร(ร.ฮ)กล่าวในกรณีการคุตบะฮละหมาดกุุสูฟว่า ไม่ได้จำกัดเฉพาะการบอกให้รู้เกี่ยวกับสาเหตุกุสูฟอย่างเดียวโดย กล่าวว่า

وَالْأَصْلُ مَشْرُوعِيَّةُ الِاتِّبَاعِ ، وَالْخَصَائِصُ لَا تَثْبُتُ إِلَّا بِدَلِيلٍ .

หลักเดิม(ของการอิบาดะฮ)นั้น คือ สิ่งที่ถูกบัญญัติให้ปฏิบัติตาม และบรรดาการเจาะจงนั้น จะไม่ถูกยืนยัน นอกจากด้วยหลักฐาน -ฟัตหุลบารี 2/534

อิหม่าม อิบนุดะกีกีลอีด ปราชญมัวฮับชาฟิอี กล่าวว่า

إنَّ هَذِهِ الْخُصُوصِيَّاتِ بِالْوَقْتِ أَوْ بِالْحَالِ وَالْهَيْئَةِ ، وَالْفِعْلُ الْمَخْصُوصُ : يَحْتَاجُ إلَى دَلِيلٍ خَاصٍّ يَقْتَضِي اسْتِحْبَابَهُ بِخُصُوصِهِ

แท้จริงบรรดาการเจาะจงเหล่านี้ ด้วยเวลา หรือ โอกาส และ วิธีการ และการกระทำที่ถูกเจาะจง ต้องอาศัยหลักฐานที่เฉพาะ ตัดสิน การส่งเสริมให้ปฏิบัติมัน ด้วยการเจาะจงมัน – อุมดะอ อัลอะหกามของ อิบนุดะกีก ๑/๑๑๙
ข้างต้นคือหลักการเกี่ยวกับฟิกฮ ของปราชญมัซอับชาฟิอี ว่า การเจาะจง ต้องมีหลักฐาน

อิหม่ามอัชชาฏิบีย์ (ร.ฮ) กล่าวถึงตัวอย่างของบิดอะฮว่า

ومنها التزام العبادات المعينة، في أوقات معينة ، لم يوجد لها ذلك التعيين في الشريعة ، كالتزام صيام يوم النصف من شعبان ، وقيام ليلته

ส่วนหนึ่งจากมันคือ การยึดติดกับการปฏิบัติบรรดาอิบาดะฮที่เฉพาะ ในบรรดาเวลาที่เฉพาะ ,การเจาะจงดังกล่าวนั้น ไม่พบสำหรับมัน ในศาสนบัญญัติ เช่น การยึดติดกับการถือศีลอด นิสฟูชะอบาน และการละหมาดในคำคืนนั้น - อัลเอียะติศอม 1/37-39
.............
เพราะฉะนั้น หากการกระทำเพราะเกิดความสะดวก เนื่องจากเวลาไม่มีเวลาในวันอื่นและไม่เชื่อว่าดีกว่าวันอื่น ไม่ได้ถือเอาเป็นประเพณีนิยมประจำฤดูกาล ก็ไม่เข้าข่ายบิดอะฮที่ระบุข้างต้น แต่สิ่งที่ควรตระหนักคือ แบบอย่างการเจาะจงเยี่ยมกุโบร์ในวันอีด ไม่เคยปรากฏในแบบอย่างของท่านนบี ศอ็ลฯและเหล่าเศาะหาบะฮ

และชัยค์อัลบานีย์(ร.ฮ) กล่าวว่า

ج : نقول بإيجاز زيارة الأحياء للأموات يوم العيد من محدثات الأمور لأنه يعني تقييد ما أطلقه الشارع الحكيم قال النبي صلى الله عليه وسلم فـي الحديث الصحيح ( كنت نهيتكم عن زيارة القبور ألا فزوروها فإنها تذكركم بالآخرة
فقوله ( ألا فزوروها ) أمر عام لا يجوز تقييده بزمن أو بمكان خاص لأن تقييد النص وإطلاقه ليس من وظيفه الناس إنما وظيفة رب العالمين الذي كلف الرسول الكريم قال له : ( وأنزلنا إليك الذكر لتبين للناس ما نزل إليهم

ตอบ

เราขอกล่าวว่า การอนุญาตให้คนเป็นเยี่ยมคนตาย ในวันอีดนั้น เป็นส่วนหนึ่งจากกิจการที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ เพราะหมายถึง การจำกัดสิ่งที่ผู้บัญญัติศาสนาบัญญัติผู้ปรีชาญาน ได้กล่าวเอาไว้กว้างๆ ,ท่านนบี ศอ็ลฯ กล่าวไว้ในหะดิษเศาะเฮียะว่า ( ฉันเคยห้ามพวกท่านจากการเยี่ยมกุบูร พึงทราบเถิดว่า พวกท่านจงเยี่ยมมันเถิด เพราะมันจะทำให้พวกท่านระลึกถึงวันอาคีเราะฮ) แล้วคำว่า (พวกท่านจงเยี่ยมมันเถิด) เป็นคำสั่งทั่วไป ไม่ได้จำกัดเวลา หรือ สถานที่ เพราะการจำกัดกความหมายตัวบทและการกล่าวไว้กว้างๆนั้น ไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่มนุษย์ แต่ความจริง มันเป็นหน้าที่ของพระผู้อภิบาลแห่งสากลจักรวาล ผู้ซึ่งมอบภาระแก่รอซูลผู้ทรงเกียรติ โดยตรัสแก่ท่านรซูลว่า “เราได้ประทานอัลกุรอ่านให้แก่เจ้า เพื่อเจ้าจะได้อธิบายแก่มนุษย์ สิ่งที่ถูกประทานลงมาแก่พวกเขา – ฟะตาวาอัลบานีย์หน้า 61

.................

ทุกคนเมื่อทำอะไร ย่อมมีเหตุผลไว้ตอบเสมอ แต่เรื่องศาสนา เหตุผลย่อมฟังไม่ขึ้นหากปราศจากหลักฐาน และการเจตนาดีนั้น ต้องปฏิบัติตามสุนนะฮด้วยจึงจะได้ผล

والله أعلم بالصواب

อะสัน หมัดอะดั้ม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น