วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2559

เขาหาว่าเอายิวและคริสต์มารับรองอะกีดะฮ


เขาหาว่าเอายิวและคริสต์มารับรองอะกีดะฮ

อุหมาด รัตนพงค์
1 ชม. •
แอบอ้างได้ว่าเหมือน แต่ที่ศรัทธาจริงๆ วายีเมืองพุทธ
ไปเอา คริสต์ ยิวและอื่นๆมารับรองหากยังเป็นแบบนี้ เตาบัตเถอะ ลี

………………..

สืบเนื่องมาจากที่ผมได้นำเสนอหลักฐานต่อไปนี้เพื่อยืนยันการอยู่เบื้องสูงของอัลลอฮและได้ชี้แจงหลายครั้ง แต่ยังคงมีคนเอาไปชงบิดเบือนหาว่าเอาความเชื่อของยิวและคริสมารับรองอะกีดะฮ ผมจึงขอชี้แจง อีกครั้งดังต่อไปนี้

อิหม่ามบุคอรีย ได้รายงานใน หนังสือคอ็ลคุอัฟอาลิลอิบาด หน้า 9 ดังนี้

وَقَالَ سَعِيدُ بْنُ عَامِرٍ : " الْجَهْمِيَّةُ أَشَرُّ قَوْلا مِنَ الْيَهُودِ وَالنَّصَارَى ، قَدِ اجْتَمَعَتِ الْيَهُودُ وَالنَّصَارَى ، وَأَهْلُ الأَدْيَانِ أَنَّ اللَّهَ تَبَارَكَ وَتَعَالَى عَلَى الْعَرْشِ ، وَقَالُوا هُمْ : لَيْسَ عَلَى الْعَرْشِ شَيْءٌ

ความว่า “สาอีด บิน อามีร กล่าวว่า พวกญะฮฺมียะฮฺนั้นเลวยิ่งกว่าพวกยิวและคริศต์ เป็นที่ทราบกันดีว่า ยิวและคริศต์และศาสนาอื่นๆนั้นได้มีมติเอกฉันท์ร่วมกันว่า อัลลอฮทรงอยู่เหนือรัชฺ แต่พวกญะฮฺมียะฮฺกลับกล่าวว่า อัลลอฮมิได้อยู่เหนือสิ่งใดๆ
อิหม่ามอัซซะฮะบีย์(ร.ฮ)รายงานว่า

قال عبد الرحمن بن أبي حاتم حدثنا أبي قال حدثت عن سعيد ابن عامر الضبعي أنه ذكر الجهمية فقال هم شر قولا من اليهود والنصارى قد إجتمع اليهود والنصارى وأهل الأديان مع المسلمين على أن الله عزوجل على العرش وقالوا هم ليس على شيء

อับดุรเราะหฺมาน บิน อบีหาติม กล่าวว่า บิดาของฉันเล่าให้แก่เรา เขากล่าวว่า ฉันได้รับการเล่าจากสะอีด บิน อะมีร อัฎ-ฎุบะอีย์ว่า เขาได้พูดถึงพวกญะฮฺมียะฮฺ โดยกล่าวว่า “พวกญะฮฺมียะฮฺนั้นเลวยิ่งกว่าพวกยิวและคริศต์ เป็นที่ทราบกันดีว่า ยิวและคริศต์และศาสนาอื่นๆนั้นอยู่ร่วมกับมุสลิมในมติเอกฉันท์ว่า อัลลอฮทรงอยู่เหนือรัชฺ แต่พวกญะฮฺมียะฮฺกลับกล่าวว่า อัลลอฮมิได้อยู่เหนือสิ่งใดๆ - ดู อัล-อุลูว ลิล อะลิยยิล ฆ็อฟฟาร หน้า 157 และมุคตะศ็อร อัล-อุลูวฺ หน้า 168 และใน กิตาบอัลอะรัช 2/207,อัลอิบานะฮของอิบนุบัฏเฏาะฮ เล่ม 1 หน้า 45 และปรากฏระบุในตำราอื่นๆหลายเล่ม

……………………..

การที่กล่าวหาว่า วะฮบีย์ เอาอะกีดะฮยิวและคริสต์มารับรอง ขอชี้แจงดังนี้
ความจริงศาสนาอิสลาม มีมาตั้งแต่อัลลอฮ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ได้แต่งตั้งนบีอาดัมให้เป็นศาสนาดาแล้ว โดยมีหลักอะกีดะฮเดียวกันคือ การศรัทธาในพรเจ้าองค์เดียวและให้เคารพภักดี ต่ออัลลอฮองค์เดียวเท่านั้นส่วนหลักชะรีอะฮ นั้น มีความแตกต่างกันไปตามยุคตามสมัย
คำว่า”คำว่า “อิสลาม”ตามภาษาอัลกุรอ่าน เป็นความหมายรวมทุกศาสนาที่อัลลอฮได้ประทานแก่บรรดารอซูล ไม่ใช่เฉพาะในยุคนบีมุหัมหมัด
ท่านนบี ศอลฯกล่าวว่า
، وَالْأَنْبِيَاءُ إِخْوَةٌ لِعَلَّاتٍ ، أُمَّهَاتُهُمْ شَتَّى وَدِينُهُمْ وَاحِدٌ
บรรดานบี เป็นพี่น้องที่สืบเชื้อสายจากพ่อเดียวกัน และบรรดาแม่ของพวกเขาแตกต่างกัน และพวกเขามีศาสนาเดียวกัน – รายงานโดยบุคอรี
ท่านอัลหาฟิซอิบนุหะญัร กล่าวว่า

معنى الحديث أن أصل دينهم واحد وهو التوحيد وإن اختلفت فروع الشرائع

ความหมายของหะดิษนี้คือ แท้จริงรากฐานของศาสนาบรรดานบีนั้น อันเดียวกัน คือ เตาฮีด แม้จะมีข้อปลีกย่อยของชะรีอัตแตกต่างกัน – ดูฟัตหุลบารี เล่ม ๖ หน้า ๔๘๙

คำว่า ศาสนายิวในอดีต หมายถึง ศาสนาอิสลาม ตามคำสอนคัมภีร์เตารอต ส่วนศาสนาคริสต์หมายถึง ศาสนาตามคำสอนคัมภีร์อินญีล ในอดีต
ชัยคุลอิสลามอิบนุตัยมียะอ กล่าวว่า

" فمن كان متبعا لشرع التوراة أو الإنجيل الذي لم يبدَّل ولم ينسخ فهو على دين الإسلام ، كالذين كانوا على شريعة التوراة بلا تبديل قبل مبعث المسيح عليه السلام ،
والذين كانوا على شريعة الإنجيل بلا تبديل قبل مبعث محمد صلى الله عليه وسلم "

ดังนั้นผู้ใดปฏิบัติตามชะรีอัต ของคัมภีร์เตารอต หรือคัมภีร์อินญีล ที่มันไม่ได้ถูกเปลี่ยนแปลงและถูกยกเลิก เขาก็อยู่ในศาสนาอิสลาม เช่น บรรดาผู้ที่พวกเขาอยู่บนชะรีอัตคัมภีรเตารอต โดยที่ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงก่อนที่นบีอีซา(อ)ถูกแต่งตั้ง และเช่น บรรดาผู้ที่พวกเขาอยู่บนชะรีอัตคัมภีร์อินญีลโดยที่ยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงก่อนที่นบีมุหัมหมัด (ศอ็ลฯ)ถูกแต่งตั้ง- ดูมัจญมัวะอัลฟะตาวา เล่ม ๒๗ หน้า ๒๗๐
เพราะฉะนั้น ศาสนายิว และ ศาสนาคริสต์ในอดีต ก็คือ ศาสนาอิสลามนั้นเอง
.........
คือ หมายถึง ความเชื่อของยะฮุดีและนะศอรอ ยุคที่คัมภีร์เตารอตและอินญีล ยังไม่ถูกเปลี่ยนและ ไม่ใช่ยุคปัจจุบัน
อัลลอฮตาอาลาตรัสว่า

قُلْ آمَنَّا بِاللّهِ وَمَا أُنزِلَ عَلَيْنَا وَمَا أُنزِلَ عَلَى إِبْرَاهِيمَ وَإِسْمَاعِيلَ وَإِسْحَاقَ وَيَعْقُوبَ وَالأَسْبَاطِ وَمَا أُوتِيَ مُوسَى وَعِيسَى وَالنَّبِيُّونَ مِن رَّبِّهِمْ لاَ نُفَرِّقُ بَيْنَ أَحَدٍ مِّنْهُمْ وَنَحْنُ لَهُ مُسْلِمُونَ

จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ว่า เราได้ศรัทธาต่ออัลลอฮ์แล้วและได้ศรัทธาต่อสิ่งที่ถูกประทานแก่เรา และสิ่งที่ถูกประทานแก่อิบรอฮีมและอิสมาอีล และอิสฮาก และยะกูบและบรรดาผู้สืบเชื้อสาย(จากยะอ์กูบ) และศรัทธาต่อสิ่งที่มูซาและอีซา และนะบีทั้งหลายได้รับจากพระเจ้าของพวกเขา โดยที่เราจะไม่แยกระหว่างคนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเขา และพวกเรานั้นเป็นผู้ที่นอบน้อมต่อพระองค์.-อาลิอิมรอน/84
อิหม่ามอัซซะฮะบีย์ (ร.ฮ) รายงานว่า

قال عبد الرحمن بن أبي حاتم حدثنا أبي قال حدثت عن سعيد ابن عامر الضبعي أنه ذكر الجهمية فقال هم شر قولا من اليهود والنصارى قد إجتمع اليهود والنصارى وأهل الأديان مع المسلمين على أن الله عزوجل على العرش وقالوا هم ليس على شيء

อับดุรเราะหฺมาน บิน อบีหาติม กล่าวว่า บิดาของฉันเล่าให้แก่เรา เขากล่าวว่า ฉันได้รับการเล่าจากสะอีด บิน อะมีร อัฎ-ฎุบะอีย์ว่า เขาได้พูดถึงพวกญะฮฺมียะฮฺ โดยกล่าวว่า “พวกญะฮฺมียะฮฺนั้นเลวยิ่งกว่าพวกยิวและคริศต์ เป็นที่ทราบกันดีว่า ยิวและคริศต์และศาสนาอื่นๆนั้น ร่วมกับมุสลิม บนมติที่ว่า อัลลอฮทรงอยู่เหนือรัชฺ แต่พวกญะฮฺมียะฮฺกลับกล่าวว่า อัลลอฮมิได้อยู่เหนือสิ่งใดๆ
ดู อัล-อุลูว ลิล อะลิยยิล ฆ็อฟฟาร หน้า 157 และมุคตะศ็อร อัล-อุลูวฺ หน้า 168
อิหม่ามอัซซะฮะบีย์เอง กล่าวว่า

مقالة السلف وأئمة السنة بل الصحابة والله ورسوله صلى الله عليه وسلم والمؤمنين : وأن الله فوق سماواته
คำพูดสะลัฟ และบรรดาอิหม่ามสุนนะฮ โดยเฉพาะ เศาะหาบะฮ และ,อัลลอฮ ,รอซูลของพระองค์ (ศอลฯ) และบรรดาผู้ศรัทธา คือ
แท้จริงอัลลอฮ อยู่บนฟากฟ้าของพระองค์ – อัลอะลูว์ หน้า 107
การยืนยันถึงอะกีดะฮ พระเจ้าอยู่บนฟ้า เป็นอะกีดะฮสะลัฟ
อบูสะอีด อุษมาน อัดดาริมีย์ (ฮ.ศ 280) กล่าวว่า

ثم إجماع من الأولين والآخرين العالمين منهم والجاهلين ، أن كل واحد ممن مضى وممن غبر إذا استغاث بالله تعالى أو دعاه أو سأله ، يمد يديه وبصره إلى السماء يدعوه منها ، ولم يكونوا يدعوه من أسفل منهم من تحت الأرض ، ولا من أمامهم ، ولا من خلفهم ، ولا عن أيمانهم ، ولا عن شمائلهم ، إلا من فوق السماء ، لمعرفتهم بالله أنه فوقهم ،

หลังจากนั้น คือ มติเอกฉันท์จากบรรดาคนยุคแรก และบรรดาคนยุคสุดท้าย ที่มีความรู้ และไม่มีความรู้ แท้จริงทุกคน จากผู้ที่ผ่านมา และผู้ที่ยังคงอยู่ เมื่อขอความช่วยเหลือต่ออัลลอฮตาอาลา หรือดุอาต่อพระองค์ หรือขอต่อพระองค์ ,เขาได้ยื่นมือของเขาและทอดสายต่าของเขาสู่ฟากฟ้า ขอต่อพระองค์ จากมัน และไม่ปรากฏว่า พวกเขา ขอผู้ที่อยู่เบื้องล่างกว่า พวกเขา จากใต้พื้นดิน และ(ไม่ปรากฏว่าพวกเขา)ขอจากผู้ที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขา ,ผู้ที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา ,ผู้ที่อยู่ด้านขวาพวกเขา และจากผู้ที่อยู่ด้านซ้ายพวกเขา นอกจาก ผู้ที่อยู่เหนือฟากฟ้า เพราะพวกเขารู้จัก อัลลอฮ ว่าแท้จริงพระองค์ทรงอยู่เหนือพวกเขา....ดู อัรรอด อะลัลญะมียะฮของอัดดาริมีย 1/44
.............
คือ คนยุคแรกและยุคหลัง เวลาขอดุอาต่ออัลลอฮ พวกเขาจะขอ โดยยื่นมือของพวกเขาและทอดสายต่าของพวกเขาสู่ฟากฟ้า ขอต่อพระองค์ ไม่มีใครขอโดยยื่นมือไปยังเบื้องล่าง ,เบื้องหน้า ,เบื้องซ้าย และเบื้องขวา

นี่คือ เป็นสิ่งพิสูจน์ว่า พระเจ้าอยู่เบื้องสูง ไม่ใช่อยู่ทุกแห่ง และไม่ใช่มีโดยปราศจากสถานที่ซึ่งหมายถึงสถานที่เบื้องสูงแยกจากมัคลูค ส่วนรูปแบบจะเป็นอย่างไรอัลลอฮเท่านั้นทรงรู้ ผู้ที่นำหลักฐานในประเด็นนี้ไปชง มีเจตนาดิสเครดิตเท่านั้น เพราะจนบัดนี้ยังไม่นำหลักฐานมาหักล้างเลย
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม

1 ความคิดเห็น:

  1. แก้ไข

    อิหม่ามบุคอรีย ได้รายงานใน หนังสือคอ็ลคุอัฟอาลิลอิบาด หน้า 9 ดังนี้

    وَقَالَ سَعِيدُ بْنُ عَامِرٍ : " الْجَهْمِيَّةُ أَشَرُّ قَوْلا مِنَ الْيَهُودِ وَالنَّصَارَى ، قَدِ اجْتَمَعَتِ الْيَهُودُ وَالنَّصَارَى ، وَأَهْلُ الأَدْيَانِ أَنَّ اللَّهَ تَبَارَكَ وَتَعَالَى عَلَى الْعَرْشِ ، وَقَالُوا هُمْ : لَيْسَ عَلَى الْعَرْشِ شَيْءٌ

    ความว่า “สาอีด บิน อามีร กล่าวว่า พวกญะฮฺมียะฮฺนั้น มีคำพูดที่เลวยิ่งกว่าพวกยิวและคริสต์ แท้จริง ยิวและคริศต์และบรรดาผู้นับถือศาสนาต่างๆ นั้นได้มีมติเอกฉันท์ร่วมกันว่า อัลลอฮผู้ทรงบริสุทธิ์และสูงส่งอยู่เหนือรัชฺ แต่พวกญะฮฺมียะฮฺกลับกล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือบัลลังค์(อะรัช)

    อิหม่ามอัซซะฮะบีย์(ร.ฮ)รายงานว่า

    قال عبد الرحمن بن أبي حاتم حدثنا أبي قال حدثت عن سعيد ابن عامر الضبعي أنه ذكر الجهمية فقال هم شر قولا من اليهود والنصارى قد إجتمع اليهود والنصارى وأهل الأديان مع المسلمين على أن الله عزوجل على العرش وقالوا هم ليس على شيء

    อับดุรเราะหฺมาน บิน อบีหาติม กล่าวว่า บิดาของฉันเล่าให้แก่เรา เขากล่าวว่า ฉันได้รับการเล่าจากสะอีด บิน อะมีร อัฎ-ฎุบะอีย์ว่า เขาได้พูดถึงพวกญะฮฺมียะฮฺ โดยกล่าวว่า “พวกญะฮฺมียะฮฺนั้นมีคำพูดที่เลวยิ่งกว่าพวกยิวและคริศต์ แท้จริง ยิวและคริสต์และผู้นับถือศาสนาต่างๆนั้น ร่วมกับมุสลิมในมติเอกฉันท์ที่ว่า อัลลอฮทรงอยู่เหนือรัชฺ แต่พวกญะฮฺมียะฮฺกลับกล่าวว่า อัลลอฮมิได้อยู่เหนือสิ่งใดๆ -

    ดู อัล-อุลูว ลิล อะลิยยิล ฆ็อฟฟาร หน้า 157 และมุคตะศ็อร อัล-อุลูวฺ หน้า 168 และใน กิตาบอัลอะรัช 2/207,อัลอิบานะฮของอิบนุบัฏเฏาะฮ เล่ม 1 หน้า 45 และปรากฏระบุในตำราอื่นๆหลายเล่ม

    ตอบลบ