วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2559

อะกีดะฮอะฮลุลกาลามยุคหลัง ไม่ใช่อะกีดะฮสะลัฟ



อะกีดะฮอะฮลุลกาลามยุคหลัง ไม่ใช่อะกีดะฮสะลัฟ

อิหม่ามอัซซะฮะบีย์ (ร.ฮ) กล่าวว่า
مقالة السلف وأئمة السنة بل والصحابة والله ورسوله والمؤمنون، أن الله عز وجل في السماء، وأن الله على العرش، وأن الله فوق سماواته، وأنه ينزل إلى السماء الدنيا، وحجتهم على ذلك النصوص والآثار.

ทัศนะของสะลัฟ ,บรรดาอิหม่ามอัสสุนนะฮ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล่าเศาะหาบะฮ,อัลลอฮ ,รอซูลของพระองค์ และบรรดาผู้ศรัทธา คือ แท้จริงอัลลอฮ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยิ่ง อยู่บนฟ้า ,แท้จริงอัลลอฮ อยูู่บนอะรัช ,แท้จริง อัลลอฮ อยู่เหนือ บรรดาชั้นฟ้าของพระองค์ และแท้จริง พระองค์ทรงเสด็จลงมายังฟากฟ้าดุนยา และหลักฐานของพวกเขา บนดังกล่าวคือ บรรดาตัวบทและอัลอะษัร(อัลหะดิษ)

ومقالة الجهمية: أن الله تبارك وتعالى في جميع الأمكنة، تعالى الله عن قولهم، بل هو معنا أينما كنا بعلمه.

ทัศนะของพวกญะฮมียะฮ คือ อัลลอฮ ผู้ทรงบริสุทธิ์และทรงสูงส่ง อยู่ในสถานที่ต่างๆทั้งหมด ,พระองค์ทรงบริสุทธิ์จากทัศนะของพวกเขา แต่ทว่า พระองค์ทรงอยู่พร้อมกับเรา ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใหนก็ตาม ด้วยความรู้ของพระองค์

ومقال متأخري المتكلمين: أن الله تعالى ليس في السماء، ولا على العرش، ولا على السموات، ولا في الأرض، ولا داخل العالم، ولا خارج العالم، ولا هو بائن عن خلقه ولا متصل بهم وقالوا: جميع هذه الأشياء صفات الأجسام والله تعالى منزه عن الجسم
.
และทัศนะของบรรดานักกาลาม(นักวิภาษวิทยา) ยุคหลัง คือ แท้จริง อัลลอฮตาอาลา ไม่ได้อยู่บนฟ้า ,ไม่ได้อยู่บนอะรัช ,ไม่ได้อยู่บนบรรดาชั้นฟ้า ,ไม่ได้อยู่บนพื้นดิน , ไม่อยู่ภายในสากลจักรวาล(อาลัม) ,ไม่อยู่นอกอาลัม ,ไม่แยกจากมัคลูคของพระองค์ และไม่ติดกับพวกเขา และพวกเขา(อะฮลุลกาลาม) กล่าวว่า บรรดาสิ่งเหล่านี้คือ คุณลักษณะการมีรูปร่าง และอัลลอฮบริสุทธิ์จากการมีรูปร่าง - ดู อัลอุลูว์ ลิอะลียิลฆอ็ฟฟาร ของ อัซซะฮะบีย์ หน้า 143
..................
จะเห็นได้ว่า ทัศนะของอะฮลุลกาลาม หรือนักวิภาษวิทยา ยุคหลัง มีทัศนะเดียวกันกับอาชาอิเราะฮยุคหลัง และทัศนะนี้ไม่ใช่ทัศนะของปาชญ์ยุคสะลัฟ
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม

อะชาอิเราะฮแท้เชื่อว่าอัลลอฮอยู่บนฟ้า



อะชาอิเราะฮแท้เชื่อว่าอัลลอฮอยู่บนฟ้า

อิหม่ามอบูหะซัน อัลอัชอะรีย์(ฮ.ศ 260 -324) กล่าวว่า

فالسماوات فوقها العرش فلما كان العرش فوق السماوات قال : ( أأمنتم من في السماء ) لأنه مستو على العرش الذي فوق السماوات وكل ما علا فهو سماء والعرش أعلى السماوات ........

ดังนั้น ชั้นฟ้าทั้งหลายนั้น เหนือมันมีอะรัชอยู่ ในเมื่ออะรัชอยู่เหนือชั้นฟ้าทั้งหลาย พระองค์จึงตรัสว่า( “พวกเจ้าจะปลอดภัยละหรือ จากการที่พระผู้ทรงสถิตอยู่บน ฟากฟ้า ) เพราะพระองค์ทรงอยู่เหนืออะรัชที่อยู่เหนือชั้นฟ้าทั้งหลาย และทุกๆสิ่งที่อยู่สูง (ด้านบน) มันก็คือฟ้า และอะรัชอยู่เหนือสุดของชั้นฟ้าทั้งหลาย.....

และอิหม่ามอบูหะซัน อัลอัชอะรีย์ กล่าวอีกว่า

ورأينا المسلمين جميعا يرفعون أيديهم إذا دعوا نحو السماء لأن الله تعالى مستو على العرش الذي هو فوق السماوات فلولا أن الله عز و جل على العرش لم يرفعوا أيديهم نحو العرش كما لا يحطونها إذا دعوا إلى الأرض

เราเห็นชาวมุสลิมทั้งหลายต่างยกมือของพวกเขาขึ้นสู่ฟ้า ยามที่พวกเขาขอดุอาอ์ เพราะอัลลอฮฺผู้ทรงสูงส่งอยู่เหนืออะรัชที่อยู่เหนือชั้นฟ้าทั้งหลาย ถ้าหากว่าอัลลอฮฺ ผู้ทรงสูงส่งและทรงเลิศยิ่ง ไม่ได้อยู่เหนืออะรัช แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ยกมือของพวกเขาขึ้นไปยังอะรัช เช่นเดียวกับที่พวกเขาไม่ได้ชี้มือลงไปยังพื้นดินยามที่พวกเขาขอดุอาอ์ - อัลอิบานะฮ อันอุศูลลิดดิยานะฮ

وقد قال قائلون من المعتزلة والجهمية والحرورية : إن معنى قول الله تعالى ( الرحمن على العرش استوى ) أنه استولى وملك وقهر وأن الله تعالى في كل مكان وجحدوا أن يكون الله عز و جل مستو على عرشه كما قال أهل الحق وذهبوا في الاستواء إلى القدرة
แท้จริง ชาวมุอฺตะซิละฮฺ ญะฮฺมิยะฮฺ และหะรูริยะฮฺ พวกเขากล่าวว่า “ความหมายของคำตรัสของอัลลอฮฺ
(الرَّحْمَنُ عَلَى الْعَرْشِ اسْتَوَى)
“ผู้ทรงกรุณาปรานี ทรงอยู่เหนือบัลลังก์” (ฏอฮา/5)
หมายถึง “ยึดครอง (อิสเตาลา), อำนาจ (มุลก์) และ เอาชนะด้วยการบังคับ (ก็อฮร์) และอัลลอฮฺนั้นมีอยู่ทุกหนแห่ง พวกเขาปฏิเสธการอยู่เหนืออะรัชของอัลลอฮฺ ดังที่บรรดาผู้สัจจริงได้กล่าว
ไว้ และพวกเขายึดมั่นว่า อิสติวาอ์นั้นคือกุดเราะฮฺ (อำนาจ)
- อัลอิบานะฮ อันอุศูลลิดดิยานะฮ หน้า 33-34
............

สรุปจาก คำพูดของอิหม่ามอบูหะซัน อัลอัชอะรีย์คือ
1. อัลลอฮ ทรงอยู่เหนือฟากฟ้า
2. พวกมุอตะซิละฮ ,พวกญะฮมียะฮ เชื่อว่า อัลลอฮอยู่ทุกสถานที่
และตีความคำว่า "อิสติวาอฺ" ว่า หมายถึง การครอบครอง และอำนาจ
อาชาอิเราะฮแท้ เชื่อว่า อัลลอฮอยู่บนฟ้า
والله أعلم بالصواب
อะสัน หมัดอะดั้ม